หมวดที่ ๓ สมาชิกและสมาชิกภาพ
หมวดที่ 3 สมาชิกและสมาชิกภาพ
ข้อที่ 6. ประเภทสมาชิกสมาชิกของสมาคมการค้าแบ่งออกเป็นสามประเภท และมีคุณสมบัติดังนี้ คือ.-
(1) สมาชิกสามัญได้แก่บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจ ประเภทเกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยวซึ่งได้จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสามารถแยกกลุ่มต่าง ๆ ได้เช่น
- กลุ่มเจ้าของ หรือ ผู้จัดการโรงแรม
- กลุ่มเจ้าของหรือ ผู้จัดการภัตตาคาร ร้านอาหาร
- กลุ่มเจ้าของหรือ ผู้จัดการบริษัทนำเที่ยว
- กลุ่มเจ้าของหรือ ผู้จัดการร้านค้าของที่ระลึก หรือหัตถกรรม
- กลุ่มเจ้าของหรือ ผู้จัดการรถเช่าหรือรับจ้าง สมาคมหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวทั้งทางทางตรง
และทางอ้อม
(2) สมาชิกวิสามัญ ได้แก่ บุคคลธรรมดา คณะบุคคล ชมรมฯ หรือนิติบุคคลที่ประกอบวิสาหกิจ ในทางการค้า อุตสาหกรรม หรือการเงินอันเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวซึ่งได้ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
(3) สมาชิกกิตติมศักดิ์ได้แก่ บุคคลซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ หรือเป็นผู้ที่มี อุปการคุณ แก่สมาคม หรือซึ่งมีประสบการณ์ที่ยอมรับนับถือในวงการธุรกิจท่องเที่ยว เป็นผู้มีความสามารถให้คำปรึกษา แนะนำ และให้การสนับสนุนอันเป็นหลักการ และเป็นประโยชน์ต่อสมาคม ซึ่งคณะกรรมการเห็นมีมติให้เข้าเป็นสมาชิก และผู้นั้นตอบรับคำเชิญ
ข้อที่ 7. คุณสมบัติของสมาชิก สมาชิกของสมาคมการค้านอกจากคุณสมบัติตามข้อที่ 6. แล้ว ยังต้องประกอบด้วยคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ.-
(1) ในกรณีที่เป็นบุคคลธรรมดา
1. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
2. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย บุคคลไร้ความสามารถ หรือบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
3. ไม่เคยเป็นบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาล ให้ลงโทษจำคุกเว้นแต่ความผิดลหุ โทษหรือ ความผิดที่อัตราโทษไม่สูงกว่าความ ผิดลหุโทษ หรือความผิดซึ่ง กระทำโดยประมาท
4. ไม่เป็นโรคอันพึงรังเกียจแก่สังคม
5. เป็นผู้มีฐานะมั่นคงพอสมควร
6. เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
(2) ในกรณีที่เป็นนิติบุคคล
1. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
2. มีฐานะมั่นคงพอสมควร
ให้นำความในข้อ 7 (1) มาใช้บังคับแก่คุณสมบัติของผู้แทนนิติบุคคล ที่ได้รับแต่งตั้งให้มีอำนาจ กระทำการแทนนิติบุคคลที่เป็นสมาชิกตามข้อ 10 ด้วย
ข้อที่ 8. การสมัครเข้าเป็นสมาชิก ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือสมาชิกวิสามัญของสมาคมจะ ต้องยื่นความจำนงต่อเลขาธิการหรือ กรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการตามแบบพิมพ์ที่สมาคม ได้กำหนดไว้ โดยมีสมาชิกสามัญเป็นผู้รับรองอย่างน้อยสองคน
ข้อที่ 9. การพิจารณาคำขอสมัครเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการหรือกรรมการผู้ทำหน้าที่แทนเลขาธิการนำ ใบสมัครเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ในคราวต่อไปหลังจากได้รับใบสมัคร เมื่อคณะกรรมการมีมติ ให้รับหรือไม่รับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิกให้เลขาธิการมีหนังสือแจ้งให้ผู้นั้นทราบ ภายใน 7 วัน นับแต่วันลงมติ
ข้อที่ 10. สมาชิกเป็นนิติบุคคล สมาชิกที่เป็นนิติบุคคลต้องแต่งตั้งผู้แทน ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่มีอำนาจกระทำกิจการแทนนิติบุคคลนั้นได้ไม่ เกิน 2 คน เพื่อปฏิบัติการในหน้าที่และใช้สิทธิแทนบุคคลนั้นได้เพียง เท่าที่สมาชิกบุคคลธรรมดาประเภทเดียวกันนั้นจะพึงมี ในการนี้ผู้ แทนจะมอบหมายให้บุคคลอื่น กระทำการ หรือแต่งตั้งตัวแทนช่วงมิได้ บุคคลเดียวกันจะเป็นผู้แทนที่มีอำนาจกระทำการแทนสมาชิกเกิน 1 รายมิได้
ข้อที่ 11. การขาดจากสมาชิกภาพ สมาชิกภาพย่อมสิ้นสุดลง ในกรณี ดังต่อไปนี้
(1) ตาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล
(2) ขาดคุณสมบัติตามข้อ 6
(3) ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการเห็นชอบ
(4) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย
(5) ถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือ บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
(6) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษ หรือความผิดที่อัตราโทษ ไม่สูง กว่าความผิดลหุโทษ หรือ ความผิดที่ ได้กระทำโดยประมาท
(7) คณะกรรมการลงมติให้ลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิก โดยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของ จำนวนกรรมการทั้งหมด ด้วยเหตุ หนึ่งเหตุใดดังต่อไปนี้
1. การกระทำใดๆ ที่ทำให้สมาคมเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยเจตนา
2. การทำการละเมิดข้อบังคับโดยเจตนา
ข้อที่ 12. ทะเบียนสมาชิก ให้นายทะเบียนจัดทำทะเบียนสมาชิกเก็บไว้ ณ สำนักงานของสมาคม โดยอย่างน้อยให้มีรายการดังต่อไปนี้.-
(1) ชื่อและสัญชาติของสมาชิก
(2) ชื่อที่ใช้ในการประกอบวิสาหกิจและประเภทของวิสาหกิจ
(3) ที่ตั้งของสำนักงานของสมาชิก
(4) วันที่เข้าเป็นสมาชิก